5 สมุนไพรริดสีดวง

0 Comments
สมุนไพรริดสีดวง

โรคริดสีดวงทวาร ถือเป็นโรคที่หลายคนเคยเป็นกันบ่อยครั้ง ซึ่งความรุนแรงของโรคนี้ทำให้เกิดการเจ็บปวด นอกจากนี้ค่ารักษาโรคริดสีดวงทวารเองก็ยังสูงอีกด้วย หากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังมองหาวิธีการรักษาโรคริดสีดวงทวาร โดยไม่ต้องใช้ยา แนะนำว่าให้ใช้การรักษาโดยสมุนไพรริดสีดวง ซึ่งสมุนไพรสำหรับรักษาริดสีดวงมีดังต่อไปนี้

1.เพชรสังฆาต

สำหรับเพชรสังฆาตคือสมุนไพรที่หลายคนรู้จักกันดีว่าสามารถรักษาโรคริดสีดวงได้ จัดว่าเป็นสมุนไพรที่ปลูกได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องได้รับการดูแลมากนัก ข้อเสียของเพชรสังฆาตคือทานยาก เคี้ยวสดๆ ไม่ได้เพราะจะทำให้คันหรือระคายเคือง หากต้องการรักษาโรคริดสีดวงให้หาย ควรใช้เพชรสังฆาตหั่นเป็นปล้องเล็กๆ ผสมกับแตงกวา กล้วยน้ำวาสุกงอม หรือมะขามเปียก จากนั้นจึงรับประทานวันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็นเป็นเวลา 15 นาที โดยควรทานติดต่อกัน 2 สัปดาห์ เพื่อให้โรคนี้ไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก

2.แมงลัก

สำหรับแมงลักนั้นเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในทางอ้อมที่ช่วยในการรักษาโรคริดสีดวง กล่าวคือสมุนไพรชนิดนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี ซึ่งวิธีการรับประทานนั้นทำได้อย่างง่ายดาย โดยผสมเม็ดแมงลักหนึ่งช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่น 1 แก้ว ทิ้งไว้ให้เมล็ดนั้นพองเต็มที่ จากนั้นจึงดื่มก่อนเข้านอน เมื่อตื่นเช้า เม็ดแมงลักจะทำให้คุณขับถ่ายดียิ่งขึ้น

3.กระเจี๊ยบเขียว

กระเจี๊ยบเขียวเป็นสมุนไพรริดสีดวงอีกหนึ่งชนิด โดยเป็นพืชผักที่นิยมทานคู่กับน้ำพริก ซึ่งภายในกระเจี๊ยบเขียวอุดมไปด้วยไฟเบอร์ และสารซึ่งเป็นเมือกลื่น โดยเมือกนี้จะช่วยให้การขับถ่ายง่ายกว่าเดิม อีกทั้งยังสมานแผลริดสีดวงได้เป็นอย่างดี หากรับประทานเป็นประจำจะทำให้โรคริดสีดวงหายได้อย่างง่ายดาย

4.ใบย่านาง

สำหรับย่านาง ได้รับการเรียกขานอีกชื่อว่า “หมื่นปีไม่แก่” ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าย่านางเป็นสมุนไพรที่รักษาได้หลายต่อหลายโรค ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ แคลเซียม และฟอสฟอรัส ในใบย่านางมีไฟเบอร์จำนวนมาก ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กและใหญ่ ตลอดจนหูรูด จึงไม่น่าแปลกใจที่สมุนไพรชนิดนี้จะช่วยในการรักษาโรคริดสีดวงทวารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.ไผ่รวก

ไผ่รวกเป็นพืชที่นิยมรับประทานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจุดเด่นคือรสชาติอร่อย รับประทานง่าย มีฤทธิ์เย็น โดยการนำมาทำเป็นสมุนไพรริดสีดวงก็ไม่ยากอย่างที่คิด แค่เพียงใช้ต้นของไผ่รวกและรากผสมอย่างละเท่าๆ กัน จากนั้นต้มในน้ำเดือดแล้วใส่เกลือ ½ ช้อนชา ดื่มแทนน้ำทั้งวัน

จะเห็นได้ว่าสมุนไพรไทยเองก็มีสรรพคุณที่โดดเด่นในการรักษาโรคไม่แพ้ยาแผนปัจจุบัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยจะรักษาแบบใดแล้วได้ผลดีที่สุด แต่อย่างไรก็ดี การใช้สมุนไพรทุกครั้งควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายนั่นเอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *